1. Dotmatrix printer เครื่องพิมพ์ประเภทนี้ในสมัยก่อนเคยเป็นที่นิยม ลักษณะการพิมพ์เป็นแบบใช้หัวเข็ม และไม่ได้ใช้ตลับหมึกแต่ใช้ผ้าหมึกแทน
การใช้งาน มักใช้พิมพ์งานที่ต้องการทำสำเนา
เนื่องจากเครื่องพิมพ์ลักษณะนี้มีแรงกด และสามารถพิมพ์กระดาษต่อเนื่องได้
และอายุการใช้งานค่อนข้างนาน
แต่มีข้อเสียอยู่ที่คุณภาพงานพิมพ์ต่ำเมื่อเทียบกับ printer ประเภทอื่นๆ
และมีเสียงดังขณะพิมพ์งาน
หลักการทำงานของเครื่องพิมพ์ Dot Matrix Printer
เป็นเครื่องพิมพ์ชนิดแรกที่ถูกผลิตขึ้นมาใช้งาน
แต่ปัจจุบันจะใช้งานบางประเภทเท่านั้น
หลักการทำงานใช้ระบบหัวเข็มยิงกระแทกผ่านผ้าหมึกไปยังกระดาษ
ภาพที่เกิดขึ้นเกิดจากสีของน้ำหมึกที่ซึมอยู่ในผ้าหมึก เหมาะสำหรับงานที่
มีแต่ตารางและตัวหนังสือ และงานที่ต้องการสำเนาที่เกิดขึ้นพร้อมต้นฉบับ
เช่น บิล หรือ รายงาน ต่าง ๆ เครื่องพิมพ์ชนิดนี้สามารถสรุปข้อดี-ข้อเสีย
ได้ดังนี้คือ
ข้อดี
1.สามารถพิมพ์ครั้งเดียวได้ หลาย ๆ แผ่น หรือหลาย COPY ถือว่าเป็นลักษณะเด่นของเครื่องพิมพ์แบบนี้
2.ประหยัดผ้าหมึกและผ้าหมึกมีราคาถูก และยังใช้ได้กับกระดาษต่อเนื่อง หรือ ชนิดแผ่นก็ได้
3.อะไหล่ และ ค่าซ่อมมีราคาไม่สูงมาก
4.มีความแข็งแรงทนทานในการใช้งานสูง
ข้อเสีย
1.พิมพ์งานกราฟฟิค ที่มีความละเอียดมาก หรือพิมพ์ภาพสี ไม่ได้
2.พิมพ์งานได้ช้า และมีเสียงดัง
3.มีขนาดใหญ่ น้ำหนักมาก และ กินกระแสไฟฟ้ามาก
4.ในปัจจุบันราคาค่อนข้างสูง
ในปัจจุบันมีหลายยี่ห้อ เช่น Epson, Oki, Nec, Fujisu เป็นต้น
2. Inkjet printer
เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทนี้ ในปัจจุบันค่อนข้างได้รับความนิยมค่อนข้างมาก
เนื่องจากราคาที่ไม่สูงจนเกินไป คุณภาพงานพิมพ์เป็นที่ยอมรับ
และการใช้งานได้ค่อนข้างหลากหลาย ลักษณะการพิมพ์
จะเป็นการพ่นหมึกพิมพ์เป็นหยดๆ ลงบนกระดาษการใช้งาน สามารถพิมพ์งานได้หลากหลาย เอกสาร, ภาพถ่าย, โปสการ์ด แต่โดยทั่วไปมักมีขนาดไม่เกิน A3 และมีสินค้าให้เลือกหลายรุ่นตามระดับราคา และฟังก์ชันที่ต้องการ
หลักการทำงานของเครื่องพิมพ์ Inkjet Printer
เครื่องพิมพ์ที่ใช้วิธีพ่นน้ำหมึกลงไปบนวัตถุงาน โดยหมึกจะถูกฉีดออกจากรูขนาดเล็กบนหัวพิมพ์ ซึ่งหมึกที่ใช้จะเป็นแม่สี 3 สี คือ แดง เหลือง และน้ำเงิน บางเครื่องจะใช้ 2 กล่อง คือ น้ำหมึกสีดำกับตัวแม่สี สามารถพิมพ์ได้เร็ว คือ ประมาณ 9 ppm
คุณลักษณะเด่นของเครื่องพิมพ์แบบนี้คือ
- สามารถพิมพ์ภาพสีได้ โดยมีตลับหมึกสีแยกอิสระ สามารถถอดเปลี่ยนใหม่ได้ - คุณภาพการพิมพ์คมชัดกว่าแบบใช้หัวเข็ม ให้ความละเอียดสูง เหมาะสมสำหรับงานด้านกราฟิค และงานด้านการนำเสนอ- สามารถพิมพ์บนผิววัสดุอื่นๆ นอกจากบนกระดาษได้ เช่น แผ่นใส สติ๊กเกอร์
หลักการทำงาน
เมื่อเราทำการสั่งพิมพ์ด้วยการกดคลิกที่ปุ่ม OK ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์จะเกิดกระบวนการทำงานเป็นลำดับต่อเนื่องดังนี้- ซอฟต์แวร์ที่ใช้จะส่งข้อมูลให้เป็นรูปแบบที่เครื่องพิมพ์สามารถเข้าใจได้
- ไดรฟ์เวอร์จะส่งข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ไปยังเครื่องพิมพ์ ผ่านอุปกรณ์เชื่อมต่อ
- เครื่องพิมพ์จะรับข้อมูลจากคอมพิวเตอร์และทำการเก็บข้อมูลนั้นไว้ในบัฟเฟอร์ ซึ่งอยู่ในหน่วยความจำ RAM ขนาดตั้งแต่ 512 KB จนถึง 16 KB ขึ้นอยู่กับรุ่น
- หากเครื่องพิมพ์ไม่ตอบสนองการทำงานในช่วงระยะเวลาหนึ่ง อาจเป็นเพราะเครื่องกำลังเข้าสุ่วงรอบของการทำความสะอาดหัวพิมพ์แบบสั้นๆ
- เมื่อกระดาษผ่านเข้าไปในเครื่องคอมพิมพ์ จะเริ่มพิมพ์จากตำแหน่งเริ่มต้นของหน้าแรก สเต็ปเปอร์มอเตอร์หัวพิมพ์จะบังคับสายพานให้เลื่อนชุดหิวพิมพ์ไปมาอย่างเป็นจังหวะ
- การพิมพ์ของอิงก์เจ็ต จะพิมพ์ทีละจุด ทีละแถบเรียงต่อเนื่องติดกันไปบนกระดาษ ซึ่งหัวพิมพ์จะฉีดหมึกในโหมดสี CMYK ได้อย่างแม่นยำ
- เมื่อสิ้นสุดการพ่นหมึกในหนึ่งแถวกระดาษ เครื่องก็จะเลื่อนกระดาษขึ้นพิมพ์แถวต่อมา
- กระบวนการนี้จะดำเนินไปอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งพิมพ์เสร็จหมดทั้งหน้า
- เมื่อการพิมพ์เสร็จสมบูรณ์ หัวพิมพ์จะหยุด สเต็ปเปอร์มอเตอร์ที่ดึงกระดาษจะหมุนลุกกลิ้งผลักกระดาษที่พิมพ์เสร็จแล้วออกไปด้านหน้าเครื่องพิมพ์
3. Laser printer ลักษณะการพิมพ์ของ printer ประเภทนี้ ใช้เทคโนโลยีเดียวกับเครื่องถ่ายเอกสาร คือยิงเลเซอร์ไปสร้างภาพบนกระดาษในการสร้างรูปภาพ หรือตัวอักษร ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาจะมีคุณภาพสูงมากกว่าเครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึก
การใช้งาน เหมาะสำหรับการพิมพ์ที่ต้องการคุณภาพที่สูงมากขึ้น เอกสารสำคัญต่างๆ หรืองานที่ต้องการความคมชัดและสวยงามมากกว่าการพิมพ์อิงค์เจ็ทโดยทั่วไป แต่เครื่อง print ประเภทนี้มีราคาสูง และต้นทุนในการใช้งานและบำรุงรักษาก็สูงมากขึ้นด้วย
หลักการทำงานเครื่องพิมพ์ Laser
1. หลักทางฟิสิกส์ของแสงเมื่อแสงตกกระทบวัตถุ โฟตอนของแสงจะทำให้วัตถุบางชนิดเกิดไฟฟ้าสถิตที่เปลี่ยนแปลงหลักการนี้นำมาใช้ในการทำเลเซอร์พรินเตอร์โดยใช้แสงเลเซอร์ที่มีความเข้มแสงและรายละเอียดสูงเป็นตัวฉายแสงลงบน Photorecepter? drum แสดงรูปภาพที่ต้องการ
2. หลักการทางไฟฟ้าสถิต ไฟฟ้าที่มีประจุไฟฟ้าสถิต ขั้วต่างกันจะดูดเข้าหากันขั้วเหมือนกันจะพลักกัน ในเครื่องเลเซอร์พรินเตอร์ จะทำให้ผิวของฟิมล์ที่เคลือบบน photoreceptor drum? เป็นประจุไฟฟ้าบวกด้วยขั้วไฟฟ้า Corona Wire เมื่อ drum หมุนมาแสงเลเซอร์ที่มีข้อมูลจะวาดรูปที่ต้องการลงบน drum จะปรากฎภาพไฟฟ้าสถิตประจุลบบนพื้นทีเป็นประจุบวก(คล้ายกับเราเขียนกาวลงบนกระป๋องแล้วไปกลิ้งบนทรายทรายจะติดบนกระป๋องตามเส้นที่เราทากาวไว้) จากนั้นกลิ้งผงหมึก Toner ที่เป็นประจุบวกลงบน drum ผงหมึกจะติดลงบนส่วนที่เป็นประจุลบ
3. พิมพ์ลงบนกระดาษใช้หลักไฟฟ้าสถิตเช่นเดียวกันโดยลูกกลิ้งที่ทำให้กระดาษเป็นประจุลบ ผงหมึกประจุบวกบน drum จะพิมพ์ติดบนกระดาษ จากนั้นจะผ่านความร้อนทำให้หมึกละลาย Fuser ให้หมึกที่มีส่วนผสมของอนูของสีและพลาสติกละลายเกาะติดกระดาษอย่างแน่นหนาและไม่หลุดลอก(เราจะรู้สึกว่ากระดาษอุ่นเมื่อพิมพ์ออกมาเสร็จใหม่ๆ)
ทิศทางการเดินทางของกระดาษ
จากการทำงานของ
printer ส่วนที่สำคัญที่ต้องเปลี่ยนบ่อยๆมีส่วนของ Toner
ที่จะต้องมีการเปลี่ยนเมื่อหมึกหมด
คุณภาพหมึกพิมพ์และลูกกลิ้งมีผลกับความคมชัดของงานพิมพ์ครับprinter
บางยี่ห้อจะรวมส่วน Drum และ Toner เข้าด้วยกัน
เวลาเปลี่ยนต้องเปลี่ยนทั้งหมดครับ เราไม่จำเป็นต้องใช้ Toner
ของแท้จากโรงงานครับ เพราะราคาแพงมากราคาเกือบเท่าเครื่อง printer
ใหม่เลยทีเดียวถ้าได้ toner? remanufactor
ที่ใช้อะไหล่ของแท้ก็สามารถใช้แทนได้ครับโดยไม่ส่งผลกระทบกับเครื่องเลย
ปัจจุบัน tonner ยังติด ship
ควบคุมปริมาณการพิมพ์อีกด้วยการเปลี่ยนผงหมึกต้องเปลี่ยน ship reset
ใหม่ด้วยครับถึงจะใช้ได้
4. Plotter เป็นเครื่องพิมพ์ชนิดที่ใช้ปากกาในการเขียนข้อมูลต่างๆ
ลงบนกระดาษที่ทำมาเฉพาะงาน พล็อตเตอร์ทำงานโดยใช้วิธีเลื่อนกระดาษ โดยสามารถใช้ปากกาได้ 6-8 สี
ความเร็วในการทำงานของ พล็อตเตอร์มีหน่วยวัดเป็นนิ้วต่อวินาที (Inches Per
Second : IPS) ซึ่งหมายถึงจำนวนนิ้วที่พล็อตเตอร์สามารถ
เลื่อนปากกาไปบนกระดาษ
การใช้งานเหมาะสำหรับงานเกี่ยวกับการเขียนแบบทางวิศวกรรม
และงานตกแต่งภายใน ใช้สำหรับวิศวกรรมและสถาปนิก งานพิมพ์ขนาดใหญ่มีหน้ากว้าง เหมาะสำหรับทำงานด้านป้ายหรือโฆษณา
5. Multifunction printer
เครื่องพิมพ์ประเภทนี้เป็น printer
ที่รวบรวมฟังก์ชันที่หลากหลายในการทำงานไว้ในเครื่องตัวเดียว เช่น สามารถ
scan, copy หรือรับ-ส่งแฟ็กซ์ ได้ในตัวเอง
ทำให้มีความสะดวกสบายในการใช้งานที่ค่อนข้างมาก
แต่ทั้งนี้ราคาก็มักจะสูงตามความสามารถที่มากขึ้นด้วย
การใช้งานที่หลากหลายนี้ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มค่า
และสะดวกสบายในการทำงาน ซึ่งสามารถเลือกฟังก์ชันจากรุ่นที่มีได้ตามต้องการ
นอกจากประเภทของ printer ต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว
ยังมีเครื่องพิมพ์ที่สำหรับพิมพ์งานเฉพาะด้าน อีกหลายแบบด้วยกัน เช่น
เครื่องพิมพ์ฟิล์ม, เครื่องพิมพ์สติกเกอร์-ป้ายต่างๆ เป็นต้น ซึ่ง
ผมขอไม่ลงรายละเอียดไปมากกว่านี้แล้วกันนะครับ